ข่าวสาร

ข่าวสาร

เอรียา จุฑานุกาล คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์กอล์ฟสตรี “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021”

(ชลบุรี – 9 พฤษภาคม 2564) – ผลการแข่งขันรายการกอล์ฟอาชีพสตรี “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” ณ สนามกอล์ฟ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จ.ชลบุรี วันสุดท้าย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โชว์วงสวิงได้อย่างร้อนแรงตี 9 อันเดอร์พาร์ ไล่บี้ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18ปี ปาดหน้าคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ไปครองด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันทั้งหมด 14 ครั้ง ขณะที่ “โปรเหมียว” แพตตี้ ธวัชธนกิจ ผู้นำสามวันแรกมาพลาดวันสุดท้าย จบอันดับ 3 ร่วม

ตลอดทั้ง 4 วัน ของการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” นักกอล์ฟสาวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 72 คน ร่วมประชันวงสวิงชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 50 ล้านบาท และลุ้นรางวัลพิเศษรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่น HYBRID TECH มูลค่า 1,799,000 บาท กับการทำโฮลอินวันหลุมที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 6 – 9 พฤษภาคม 2564 โดยผู้ชนะอันดับหนึ่งจะได้รับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7.5 ล้านบาท อันดับสอง 148,877 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.8 ล้านบาท และอันดับสาม 108,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.4 ล้านบาท โดยมีการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งผ่านทางช่อง PPTV GOLD บนเว็บไซต์ http://www.pptvhd36.com แอพลิเคชั่น PPTVHD36 รวมทั้งเฟสบุค และยูทูปของสถานี ฯ และ PPTV HD ช่อง 36

การแข่งขันวันสุดท้ายลุ้นแชมป์กันอย่างตื่นเต้นระหว่างสามโปรสาวไทย “โปรเหมียว” แพตตี้ หรือ ปภังกร ธวัชธนกิจ ผู้นำหลังจบรอบสาม “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18ปี จากอันดับสองร่วม และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์เมเจอร์สองรายการ ที่สตาร์ทวันสุดท้ายตามหลังแพตตี้ ผู้นำ 5 สโตรก ซึ่งทั้งสามคนหวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันครั้งแรกปี 2006

“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์เมเจอร์สองรายการ มือ 33 ของโลก และรองแชมป์ฮอนด้า แอลพีจี ไทยแลนด์ 2013 ออกรอบวันสุดท้ายสกอร์ตามหลังผู้นำ 5 สโตรก เริ่มต้นวันอย่างร้อนแรง เก็บ 6 เบอร์ดี้ใน 9 หลุมแรก ทำให้มีโอกาสขึ้นมาลุ้นแชมป์ จากนั้นใน 9 หลุมหลัง เอรียาทำเบอร์ดี้เพิ่มได้ที่หลุม 10 และ 12 และในหลุมสุดท้าย เอรียา มีโอกาสพัตต์อีเกิ้ลที่ระยะราว 10 ฟุต แต่พัตต์ไม่ลงเก็บได้แค่เบอร์ดี้ จบวันสุดท้ายตีถึง 9 อันเดอร์พาร์ 63 โดยไม่เสียโบกี้ เป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ดีที่สุดของวันสุดท้าย สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ขึ้นไปนำบนคลับเฮาส์

ด้าน”โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18 ปี ที่ได้รับเชิญร่วมแข่งขันรายการนี้ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพเป็นครั้งแรก ออกสตาร์ทวันสุดท้ายที่อันดับ 2 ร่วม เก็บสองเบอร์ดี้ที่หลุม 1 และ หลุม 2 แม้หลุม 6 พาร์ 4 ตีไปตกบังเกอร์แต่แก้ไขในช็อตสองได้ดีจนเก็บเบอร์ดี้ได้ รักษาโอกาสลุ้นแชมป์ ก่อนจะทำเบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 7 ,10 ทว่าช่วง 9 หลุมหลังมาพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 17 ทำให้สกอร์หล่นมาตามหลัง”โปรเม” หลังจากนั้นมีการประกาศพักการแข่งขันราว 30 นาทีเนื่องจากมีประจุไฟฟ้าในสนาม ก่อนที่โปรจีน จะกลับมาเล่นต่อในหลุม 18 หลุมสุดท้าย แต่อาฒยาไม่สามารถทำเบอร์ดี้เพื่อลุ้นเพลย์ออฟ ได้แค่เซฟพาร์เท่านั้น จบวันสุดท้ายด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 ได้รองแชมป์ไปครองและพลาดตั๋วไปแอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างน่าเสียดาย

ส่งผลให้เอรียาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันทั้งหมด 14 ครั้ง อีกทั้งเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 11 ของ”โปรเม” ต่อจากรายการ อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสต์เมนท์ส เลดี้ส์ สกอตติช โอเพ่น 2018 และเป็นแชมป์แรกของเธอในปีนี้ด้วย

เอรียาถึงกับร่ำไห้หลังจากได้แชมป์ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้เล่นได้ดีมากกระทั่งหลุมสุดท้ายเล่นโฟกัสทุกช็อตแล้วก็ทำได้ รู้สึกดีใจ และภูมิใจมากที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ซึ่งเป็นแชมป์ที่คนไทยรอมานานมาก”

ขณะที่อาฒยา รองแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ให้สัมภาษณ์ว่า “ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีเยี่ยมกับโอกาสการเข้าใกล้กับการเป็นแชมป์ แต่กับพัตต์สุดท้ายได้แต่คิดในใจว่าขอแค่พัตต์ดีๆสักหนึ่งพัตต์และทำให้ดีที่สุด รู้สึกภูมิใจกับตนเองมากเพราะได้ทำดีที่สุดแล้ว อีกทั้งรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เพราะที่นี่ให้ประสบการณ์ที่ดีกับเธอเสมอ”

ด้าน “โปรเหมียว” แพตตี้ หรือ ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกอล์ฟไทยมือ 12 ของโลก วัย 21 ปี เจ้าของแชมป์เมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 ผู้นำจากสามวันแรกมาพลาดในวันสุดท้าย ช่วง 9 หลุมแรก เก็บ 3 เบอร์ดี้ ที่หลุม 2,5 และ 7 แต่มาเสียสองโบกี้ที่หลุม 6 และ 9 ทำให้หล่นไปรั้งอันดับ 3 หลังจากเล่นผ่านไป 9 หลุม ส่วน 9 หลุมหลังแพตตี้เก็บเพิ่ม2 เบอร์ดี้ และเสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 12 จบวันสุดท้ายที่สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 จบอันดับที่ 3 ร่วมกับเอเมี่ หยาง แชมป์เก่า, โซยอน ริว จากเกาหลีใต้ และ แองเจิ้ล ยิน จากสหรัฐฯ

แพตตี้ เผยหลังจบวันสุดท้ายว่า “วันนี้ตีได้ไม่ค่อยดี บอกกับตัวเองว่าเล่นให้ดีที่สุด โฟกัสกับเกมตัวเอง แต่ภูมิใจกับผลการแข่งขันที่ออกมา และดีใจที่ได้มาแข่งขันที่นี่ หลังจบรายการนี้อยากพักผ่อนก่อนและฟื้นฟูสภาพร่างกายก่อนแข่งขันรายการต่อไป”

เอมี่ หยาง วัย 31 ปี จากเกาหลีใต้ แชมป์เก่าและแชมป์ 3 สมัยซึ่งวันสุดท้ายทำสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันว่า “ช่วง 9 หลุมแรกพัตต์ดีแม้จะมีโบกี้แต่โดยรวมสนุกกับเกมวันสุดท้าย ตลอดสัปดาห์แข่งขันที่นี่สนุกกับเกมมากและยินดีที่ได้กลับมาเล่นทัวร์นาเมนท์ที่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจบรายการนี้จะหยุดพักสามสัปดาห์เพื่อชาร์จพลังเพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น”

ขณะที่ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ วัย 21 ปี วันสุดท้ายระเบิดฟอร์ม ทำ 9 อันเดอร์พาร์ โดยไม่เสียโบกี้ จบวันที่9 อันเดอร์พาร์ 63 เป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ดีที่สุดของวันสุดท้ายร่วมกับโปรเม สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 จบอันดับ 13 ร่วม ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดจากการร่วมแข่งรายการนี้ 3ครั้ง

โปรเมียวกล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “เป็นสัปดาห์การแข่งขันที่สนุกโดยเฉพาะการได้คุณพ่อมาเป็นแคดดี้ วันสุดท้ายฟอร์มพัฒนาดีขึ้นมากตีได้ดีหลายช็อตทำให้เก็บเบอร์ดี้ได้เยอะจนทำให้ทำผลงานดี อย่างไรก็ตาม รู้สึกมีแรงจูงใจอย่างดีเยี่ยมทุกครั้งที่ได้มาแข่งขันที่นี่ และขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับการมอบโอกาสที่ทำให้ได้กลับมาแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับโลกในประเทศไทย”

ส่วนผลงานนักกอล์ฟไทยรายอื่นๆ มีดังนี้

“โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล มือ 40 ของโลก วัย 26 ปี รองแชมป์ร่วมปี 2018 เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับที่ 17 ร่วม

“โปรแจน” วิชาณี มีชัย วัย 28 ปี ที่รับเชิญร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก วันสุดท้ายทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 จบอันดับที่ 43 ร่วมกับ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ วัย 31 ปี วันสุดท้ายสกอร์ 1 โอเวอร์พาร์ 73

“โปรจูเนียร์” จัสมิน สุวัณณะปุระ วัย 28 ปี วันสุดท้ายสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 จบอันดับที่ 54 ร่วม

“โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน วัย 17 ปี ผู้ชนะจากเนชั่นแนล ควอลิฟายเออร์ส วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 จบอันดับที่ 57 ร่วม

“โปรมายด์” กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล วัย 22 ปี ซึ่งได้รับเชิญร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก วันสุดท้ายทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 จบอันดับที่ 69 ร่วม

มิสวินนี่ เฮง รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอเอ็มจี ประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะการแข่งขัน และขอขอบคุณนักกอล์ฟทุกท่านที่มาร่วมดวลวงสวิงกันอย่างสนุกสนานตลอดสัปดาห์การแข่งขันอันยอดเยี่ยมครั้งนี้ การรวมพลังของนักกอล์ฟหญิงในทัวร์นาเมนต์นี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ และดิฉันรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายชื่อนักกอล์ฟไทยโดดเด่นในตารางผู้นำการแข่งขันตลอดทั้ง 4 วัน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นสนุกสนานให้กับแฟนกอล์ฟชาวไทยที่ร่วมเชียร์นักกอล์ฟไทยในการคว้าชัยชนะ ผลงานครั้งนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าและผู้สนับสนุนทุกท่านที่ต้องการพัฒนากีฬากอล์ฟสตรีในประเทศไทยอย่างแท้จริง

ดิฉันขอขอบคุณฮอนด้า ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรการจัดการแข่งขันทุกท่านที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ช่วยกำหนดแนวทางการดำเนินงานซึ่งทำให้การจัดงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นตลอดการแข่งขัน

การจัดการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นจากการรวมพลังของทีมงานและอาสาสมัครทุกท่าน ซึ่งทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น ดิฉันต้องขอขอบคุณในความทุ่มเทและการทำงานหนักของทุกคน และแน่นอน ขอขอบคุณแฟนกอล์ฟทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนและติดตามการแข่งขันอยู่ที่บ้าน หากเรายังคงคิดถึงการมีผู้ชมแฟนกอล์ฟในสนาม และหวังว่าจะได้ต้อนรับทุกท่านอีกครั้งที่สนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์สในปีหน้า

แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ทัวร์นาเมนต์นี้ยังคงสานต่อ “ความฝันอันยิ่งใหญ่” อันเป็นสโลแกนของการจัดงาน และเราหวังอย่างยิ่งว่าทัวร์นาเมนต์นี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกคนที่หลงใหลในกีฬากอล์ฟ ซึ่งเราได้พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ เช่น การจัดการแข่งขัน National Qualifiers เพื่อจุดประกายความฝันแก่นักกีฬารุ่นเยาว์ ซึ่งเราหวังว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เยาวชนของเรามุ่งมั่นสานฝันสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกในอนาคต

เราคาดหวังว่าการจัดรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปีนี้ จะช่วยปูทางสู่การจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอื่นๆ ในประเทศไทยซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัย อีกทั้งมีส่วนช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อกีฬากอล์ฟ และเหนืออื่นใด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักกีฬาและผู้ชมทุกท่านในการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022 อีกครั้งในปีหน้า” มิสวินนี่กล่าว

การแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2564 ทีมงานผู้จัดงานขอขอบคุณ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงศุล กระทรวงมหาดไทย จังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา กองทัพอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนช่วยให้การจัดงานประสบความสำเร็จ

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดตามข่าวสารของการแข่งขันรายการ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” ได้ที่ http://www.hondalpgathailand.com และ http://www.facebook.com/lpgaThailand

Previous articleNext article